กฎกระทรวง
การขึ้นทะเบียนและการอนุญาตให้บริการเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
พ.ศ. ๒๕๖๔
----------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๕๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงการเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น และการเป็นหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ พ.ศ. ๒๕๕๖
ข้อ ๓ ในกฎกระทรวงนี้
"ใบสำคัญ" หมายความว่า ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามมาตรา ๙
"ใบอนุญาต "หมายความว่า ใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานตามมาตรา ๑๑
ข้อ ๔ การขึ้นทะเบียนและการอนุญาตให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานแบ่งเป็นสามประเภท ดังต่อไปนี้
(๑) การตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ และรับรอง
(๒) การประเมินความเสี่ยง
(๓) การจัดฝึกอบรมหรือให้คำปรึกษา
ข้อ ๕ การยื่นคำขอขึ้นทะเบียน การขึ้นทะเบียน การออกใบสำคัญ การออกใบแทนใบสำคัญ การยื่นคำขออนุญาต การอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การแจ้งหรือการรายงานตามกฎกระทรวงนี้ให้ดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักในระหว่างที่ยังไม่สามารถดำเนินการโดยวิธีการทางอิล็กทรอนิกส์ได้ ให้ดำเนินการโดยวิธีการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับหรือให้ยื่นคำขอ แจ้ง หรือรายงาน ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) กองความปลอดภัยแรงงาน
(๒) สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่
(๓) สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
(๔) ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต
(๕) สถานที่อื่นตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๖ ใบรับคำขอขึ้นทะเบียน ใบสำคัญ ใบรับคำขออนุญาต ใบอนุญาต ใบแทนใบสำคัญ ใบแทนใบอนุญาต และคำขอตามกฎกระทรวงนี้ ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกำหนด
แบบตามวรรคหนึ่ง อธิบดีจะกำหนดให้แตกต่างกันตามประเภทของงานก็ได้
หมวด ๑
การขึ้นทะเบียนและการอนุญาต
----------------------------------------
ข้อ ๗ ผู้ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี
(๓) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สาธรณสุขศาสตร์ หรือด้านอื่น ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
(๔) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๕) ไม่เคยถูกเพิกถอนการขึ้นทะเบียนในประเภทที่ขอขึ้นทะเบียน เว้นแต่พ้นกำหนดสามปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอน
(๖) ไม่เคยเป็นผู้กระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งถูกเพิกถอนใบนุญาตในประเภทที่ขออนุญาต เว้นแต่พ้นกำหนดห้าปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอน
ข้อ ๘ นิติบุคคลซึ่งประสงค์จะขออนุญาตเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย
(๒) มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
(๓) ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตในประเภทที่ขออนุญาต เว้นแต่พ้นกำหนดสามปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอน
(๔) ผู้กระทำการแทนนิติบุคคลต้องไม่เคยถูกเพิกถอนการขึ้นทะเบียนในประเภทที่ขอขึ้นทะเบียนตามข้อ ๗ (๕) เว้นแต่พ้นกำหนดสามปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอน
(๕) ผู้กระทำการแทนนิติบุคคลต้องไม่เคยเป็นผู้กระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งถูกเพิกถอนใบอนุญาตในประเภทที่ขออนุญาต เว้นแต่พ้นกำหนดห้าปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอน
(๖) มีบุคลากรซึ่งสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ หรือด้านอื่น ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามประเภทของงานที่ขออนุญาต
ข้อ ๙ ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือขออนุญาตเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ต้องจัดให้มีอุปกรณ์และสถานที่สำหรับการตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง ประเมินความสี่ยง และจัดฝึกอบรมหรือให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ ตามประเภทของงานที่ขอขึ้นทะเบียนหรือขออนุญาต
ข้อ ๑๐ บุคคลใดประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้ยื่นคำขอต่ออธิบดี พร้อมด้วยข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(๑) เลขประจำตัวประชาชน
(๒) เอกสารหรือหลักฐานแสดงคุณวุฒิการศึกษาตามข้อ ๗ (๓)
(๓) เอกสารหรือหลักฐานแสดงความพร้อมของอุปกรณ์หรือสถานที่ตามข้อ ๙
(๔) คำยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลตาม (๑) เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ
ข้อ ๑๑ นิติบุคคลใดประสงค์จะขออนุญาตให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้ยื่นคำขอต่ออธิบดี พร้อมด้วยข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อและเลขทะเบียนนิติบุคคล
(๒) หนังสือมอบอำนาจในกรณีที่ผู้ขออนุญาตไมใช่ผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล
(๓) เอกสารหรือหลักฐานแสดงคุณวุฒิการศึกษาตามข้อ ๘ (๖)
(๔) เอกสารหรือหลักฐานแสดงความพร้อมของอุปกรณ์หรือสถานที่ตามข้อ ๙
(๕) คำยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลตาม (๑) เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ
ข้อ ๑๒ เมื่อได้รับคำขอขึ้นทะเบียนหรือคำขอรับใบอนุญาต ให้อธิบดีตรวจสอบคำขอดังกล่าว รวมทั้งข้อมูล เอกสาร และหลักฐานว่ามีความถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ ถ้าถูกต้องและครบถ้วน ให้ออกใบรับคำขอให้แก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาต หากไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้บันทึกความบกพร่องนั้นไว้และแจ้งให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมคำขอหรือจัดส่งข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่อธิบดีกำหนด ในกรณีที่การยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหรือคำขอรับใบอนุญาตมิได้กระทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้อธิบดีและผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตลงนามไว้ในบันทึกนั้นด้วย
ในกรณีที่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตไม่แก้ไขเพิ่มเติมคำขอ หรือไม่จัดส่งข้อมูลเอกสาร หรือหลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์จะให้ดำเนินการต่อไป และให้อธิบดีจำหน่ายเรื่องออกจาก
สารบบ
ข้อ ๑๓ ในกรณีที่คำขอขึ้นทะเบียนหรือคำขอรับใบอนุญาต รวมทั้งข้อมูล เอกสาร และหลักฐานถูกต้องและครบถ้วน ให้อธิบดีพิจารณาคำขอและตรวจสอบข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวัน ถ้าผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตมีคุณสมบัติตามข้อ ๗ หรือข้อ ๘ แล้วแต่กรณี และมีอุปกรณ์หรือสถานที่ที่พร้อมในการให้บริการตามข้อ ๙ ให้อธิบดีมีคำสั่งขึ้นทะเบียนหรืออนุญาต แล้วแต่กรณี
ในการตรวจสอบข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีมีอำนาจเข้าไปตรวจสอบสถานที่ให้บริการของผู้ยื่นคำขอ หรือเรียกผู้ยื่นคำขอมาชี้แจงข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานที่ยื่นไว้ได้
ในกรณีที่อธิบดีมีคำสั่งไม่รับขึ้นทะเบียนหรือมีคำสั่งไม่อนุญาต ให้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคำสั่ง
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาต อธิบดีจะแจ้งให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตทราบโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคสามด้วยก็ได้
ข้อ ๑๔ ในกรณีอธิบดีมีคำสั่งขึ้นทะเบียนหรือมีคำสั่งอนุญาต ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว และให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว เมื่อผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตได้ชำระค่าธรรมเนียมแล้ว ให้อธิบดีออกใบสำคัญหรือใบอนุญาตให้ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด ทั้งนี้ ให้จัดส่งใบสำคัญหรือใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เว้นแต่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตได้แสดงความประสงค์จะรับด้วยตนเอง
ในกรณีที่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์จะขึ้นทะเบียนหรือรับใบอนุญาตและให้อธิบดีจำหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาต อธิบดีจะแจ้งและออกใบรับแจ้งการชำระค่าธรรมเนียมให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือผู้ขอรับใบอนุญาตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยก็ได้
ข้อ ๑๕ ใบอนุญาตให้มีอายุสามปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
หมวด ๒
การขอต่ออายุใบอนุญาต
และการออกใบแทนใบสำคัญและใบอนุญาต
----------------------------------------
ข้อ ๑๖ ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออธิบดีภายในเก้าสิบวันก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ พร้อมด้วยใบอนุญาต ข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานอื่นตามที่กำหนดในแบบคำขอต่ออายุใบอนุญาต
เมื่อได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตแล้ว ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการต่อไปได้จนกว่าอธิบดีจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น
ให้นำความในข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ และข้อ ๑๔ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม
ข้อ ๑๗ ในกรณีที่ใบสำคัญหรือใบอนุญาตสูญหาย ถูกทำลาย หรือเสียหายในสาระสำคัญและผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะยื่นคำขอรับใบแทนใบสำคัญหรือใบแทนใบอนุญาตให้ยื่นคำขอพร้อมด้วยข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(๑) ใบสำคัญหรือใบอนุญาตหรือเลขที่ใบสำคัญหรือใบอนุญาต กรณีใบสำคัญหรือใบอนุญาตถูกทำลายหรือเสียหายในสาระสำคัญ
(๒) ข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานอื่นตามที่กำหนดในแบบคำขอรับใบแทนใบสำคัญหรือใบแทนใบอนุญาต
ให้นำความในข้อ ๑๒ มาใช้บังคับแก่กรพิจารณาคำขอรับใบแทนใบสำคัญหรือใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบสำคัญหรือใบแทนใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม
ในกรณีที่คำขอรับใบแทนใบสำคัญหรือใบแทนใบอนุญาต รวมทั้งข้อมูล เอกสาร และหลักฐานตามวรรคหนึ่งถูกต้องและครบถ้วน ให้อธิบดีออกใบแทนใบสำคัญหรือใบแทนใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดวัน
หมวด ๓
การเพิกถอนทะเบียน
การพักใช้และการเพิกถอนใบอนุญาต
----------------------------------------
ข้อ ๑๘ ให้อธิบดีเพิกถอนทะเบียนในกรณีที่ปรากฏว่า ผู้รับใบสำคัญผู้ใด
(๑) ขาดคุณสมบัติตามข้อ ๗
(๒) เรียกเก็บค่าบริการเกินหลักเกณฑ์ตามข้อ ๒๒
(๓) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ ๒๓
ข้อ ๑๙ ให้อธิบดีพักใช้ใบอนุญาตโดยมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินหกสิบวันในกรณีที่ปรากฎว่าผู้รับใบอนุญาตผู้ใด
(๑) เรียกเก็บค่าบริการเกินหลักเกณฑ์ตามข้อ ๒๒
(๒) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ ๒๓
ข้อ ๒๐ ให้อธิบดีเพิกถอนใบอนุญาตในกรณีที่ปรากฏว่า ผู้รับใบอนุญาตผู้ใด
(๑) ขาดคุณสมบัติตามข้อ ๘
(๒) เคยถูกพักใช้ใบอนุญาตมาแล้วหนึ่งครั้ง และมีเหตุต้องถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตซ้ำในเรื่องเดียวกันอีกระหว่างอายุใบอนุญาต
(๓) ให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
ข้อ ๒๑ คำสั่งเพิกถอนทะเบียน คำสั่งพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตทราบ ในกรณีที่ไม่สามารถแจ้งผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลดังกล่าวไม่ยอมรับคำสั่ง ให้ปิดคำสั่งดังกล่าวไว้ในที่แลเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ปัจจุบันของผู้รับใบสำคัญหรือสำนักงานของผู้รับใบอนุญาต แล้วแต่กรณี และให้ถือว่าได้ทราบคำสั่งนั้นแล้วตั้งแต่วันที่ปิดคำสั่ง
เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาต อธิบดีจะแจ้งให้ผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตทราบโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยก็ได้
ผู้ถูกเพิกถอนทะเบียนหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตจะขอขึ้นทะเบียนหรือขออนุญาตอีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นสามปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอน
หมวด ๔
การกำหนดค่าบริการและวิธีการให้บริการ
----------------------------------------
ข้อ ๒๒ ค่าบริการที่ผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตจะเรียกเก็บ ให้คำนวณจากค่าใช้จ่ายในการให้บริการของผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาต รวมกับค่าตอบแทนที่ผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตได้รับจากการให้บริการ ซึ่งค่าตอบแทนดังกล่าวต้องไม่เกินหนึ่งเท่าของจำนวนค่าใช้จ่ายในการให้บริการ
ค่าใช้จ่ายในการให้บริการ หมายความถึง ค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนในการให้บริการ เช่น ค่าตอบแทนบุคลากร ค่าวัสดุ อุปกรณ์ หรือสถานที่ในการให้บริการ และค่าใช้จ่ายอื่นใดของผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาต
ข้อ ๒๓ ในการให้บริการ ผู้รับใบสำคัญหรือผู้รับใบอนุญาตต้อง
(๑) ตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง ประเมินความเสี่ยง และจัดฝึกอบรมหรือให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นไป ตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และมาตรฐานของวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ
(๒) จัดเตรียมอุปกรณ์และสถานที่ให้มีความพร้อมตลอดเวลาที่มีการดำเนินการให้บริการ
(๓) ไม่เปิดเผยความลับของผู้รับบริการซึ่งล่วงรู้หรือได้มาจากการให้บริการ
(๔) จัดทำค่าบริการที่กำหนดรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในการให้บริการและค่าตอบแทนที่ได้รับเสนอต่อผู้รับบริการก่อนการให้บริการ
(๕) ในกรณีเป็นการให้บริการตามข้อ ๔ (๑) หรือ (๒) ให้ส่งรายงานสรุปผลการให้บริการพร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนดต่ออธิบดีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการให้บริการ
(๖) ในกรณีเป็นการให้บริการตามข้อ ๔ (๓) ให้แจ้งกำหนดการให้บริการแต่ละครั้งก่อนการให้บริการไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน และรายงานสรุปผลการให้บริการพร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐานตามที่อธิบดีประกาศกำหนดต่ออธิบดีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการให้บริการ
หมวด ๕
ค่าธรรมเนียม
----------------------------------------
ข้อ ๒๔ ให้กำหนดค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้
(๑) ใบอนุญาต ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท
(๒) ใบสำคัญ ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
(๓) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท
(๔) ใบแทนใบสำคัญ ฉบับละ ๕๐๐ บาท
(๕) การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับ
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งแก่บุคคลผู้ขอขึ้นทะเบียนหรือนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาตซึ่งประกอบวิชาชีพในประเภทงานที่จะให้บริการที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือหลักฐานรับรองในลักษณะเดียวกัน และได้มีการชำระค่าธรรมเนียมในการขอรับการอนุญาตประกอบวิชาชีพดังกล่าวแล้ว
บทเฉพาะกาล
----------------------------------------
ข้อ ๒๕ ใบอนุญาตตามกฎกระทรวงการเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้นและการเป็นหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ออกให้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ยังใช้ได้ต่อไปจนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ หรือจนกว่าผู้รับใบอนุญาตจะถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
สุชาติ ชมกลิ่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๕ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ และยกเว้นค่าธรรมเนียม ประกอบกับมาตรา ๙ วรรคสอง และมาตรา ๑๑ วรรคสองบัญญัติให้คุณสมบัติของผู้ขอขึ้นทะเบียน การขี้นทะเบียน การออกใบแทนการขึ้นทะเบียน การเพิกถอน ทะเบียน คุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การขออนุญาต การอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทน ใบอนุญาต การพักใช้และการเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงการกำหนดค่าบริการและวิธีการให้บริการ ในการตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง ประเมินความเสี่ยง และจัดฝึกอบรมหรือให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้